ปลามีเกราะ หรือ ปลาหุ้มเกราะ (อังกฤษ: Armored fish) เป็นปลายุคก่อนประวัติศาสตร์ในชั้น
Placodermi หรือ Placoderm ซึ่งปัจจุบันสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว
บรรพบุรุษของปลาถือกำเนิดขึ้นมาในยุคออร์โดวิเชียน (500 ล้านปีก่อน)
โดยวิวัฒนาการมาจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า แอมฟิออกซัส
ที่มีกระดูกอ่อนเป็นกระดูกแกนหลักในร่างกาย
และกลายมาเป็นปลาปากกลมที่ไม่มีขากรรไกร
หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นปลาที่มีเกล็ดแข็งเหมือนเกราะหนาหุ้มตัว
จากนั้นในยุคดีโวเนียน (360 ล้านปีก่อน)
จึงเป็นปลาที่มีเกล็ดหุ้มร่างกายอย่างหนาแน่นคล้ายชุดเกราะ มีขากรรไกร ก็คือ
ปลามีเกราะปรากฏขึ้นมา โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ ๆ คือ เกราะบริเวณส่วนหัว
และเกราะบริเวณลำตัว ปลามีเกราะมีกระจายพันธุ์แพร่หลายทั้งในน้ำจืดและทะเล
แบ่งออกได้เป็นอันดับต่าง ๆ ถึง 10 อันดับ
ปลามีเกราะแพร่พันธุ์ด้วยการแพร่พันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยออกเป็นไข่ แต่ก็มีบางจำพวกที่ค้นพบว่าคลอดลูกเป็นตัวด้วย
โดยปลามีเกราะขนาดใหญ่ที่สุด คือ ดังเคิลออสเตียส
ที่มีส่วนหัวและริมฝีปากที่แหลมคมขนาดใหญ่ใช้แทนฟัน มีความยาวเต็มที่ได้ถึง 10
เมตร มีน้ำหนักได้ถึง 3.6-4 ตัน
ปลายักษ์หุ้มเกราะ
ดังเคิลออสเตียส
(Dunkleosteus)
|
ปลายักษ์หุ้มเกราะ
อาศัยอยู่ช่วงปลายยุคดีโวเนียน (380-360
ล้านปีก่อน) พบฟอสซิลแถบทวีปอเมริกาเหนือ, โปแลนด์,
เบลเยียม และโมร็อกโก โดยมากจะเป็นฟอสซิลส่วนหัว
ส่วนลำตัวจะมีรูปร่างอย่างไรก็เลยยังไม่แน่ชัด
เท่าใดนัก ที่แน่ๆก็คือส่วนหัวและช่วงต้นของลำตัวมันมีเกราะแข็งหุ้มอยู่
เท่าใดนัก ที่แน่ๆก็คือส่วนหัวและช่วงต้นของลำตัวมันมีเกราะแข็งหุ้มอยู่
ตัวอย่างฟอสซิลขนาดใหญ่ที่สุดของปลาชนิดนี้ที่เคยพบมา
ก็ไม่ใหญ่โตอะไรหรอกครับ คำนวณแล้วมันน่าจะยาวแค่ 10 เมตร เบาหวิวประมาณ 4 ตัน ส่วนปากเป็นกระดูกมีจะงอยแข็งคล้ายปากเต่าทะเลแต่มีขอบแหลมหยักแบบเขี้ยวเพิ่มความโหด
ในการกัด
วิเคราะห์กันว่าความรุนแรงในการกัดของมันนั้นสูงถึง
8,000 ปอนด์ต่อ ตารางนิ้ว แรงกว่าฉลามหลายเท่า
เพราะฉลามยุคนั้นก็เป็นอาหารอย่างหนึ่งของมันด้วยการอ้า
ปากงับเหยื่อนั้นก็เร็วสุดๆถึงเศษ 1 ส่วน 50 ของวินาที ทำให้เกิดแรงดูดสัตว์เคราะห์ร้ายเข้าสู่คมเขี้ยวได้อย่างรวดเร็ว
ปากอันแข็งแกร่งทรงพลังสามารถเจาะเกราะของปลาและสัตว์ชนิดอื่นรวมถึงพวกเดียวกันเองได้ไม่ยาก
แต่ลักษณะโดยรวมของมันนั้นไม่น่าจะว่ายน้ำได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น